น้ำมันเครื่องทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของอนุภาคโลหะ และคาร์บอนที่เกิดจากการเสียดสี และการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ รวมถึงสภาพความสะอาดภายในห้องเครื่องยนต์ ส่งผลทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และเต็มประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่ทำให้น้ำมันเครื่องของ DENSO มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ คือ
1. มีความเสถียรภาพทางความร้อนและสามารถเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ดี เหมาะสม
2. ป้องกันการสึกหรอได้ดี
3. ป้องกันตะกอน และสิ่งสกปรกต่างๆที่เกิดขึ้นภายในห้องเครื่องได้ดี
4. มีการบริโภคน้ำมันต่ำ
5. ช่วยปรับปรุงคุณภาพในการประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
โดยเมื่อทำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องจาก DENSO และผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นๆตามท้องตลาดที่มีขีดจำกัดจากความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์จากโรงงาน
→ สามารถจำแนกได้ใน 4 หัวข้อด้วยกัน ดังตารางด้านล่างนี้
จากผลการทดสอบจะเห็นได้ว่าน้ำมันเครื่องของทางเด็นโซ่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังสามารถมั่นใจได้กับคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานจากบริษัทชั้นนำระดับโลกในกลุ่มของอุตสหกรรมยานยนต์ ซึ่งน้ำมันเครื่องของเด็นโซ่ได้มีการจำหน่ายเพื่อใช้งานกับรถยนต์ทั้งในระบบเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล โดยแบ่งตามแต่ละรุ่นของรถยนต์ และชนิดของเครื่องยนต์ดังนี้
โดยรถแต่ละรุ่นจะมีการระบุชนิดของน้ำมันเครื่องเอาไว้ ซึ่งเราสามารถทำการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องให้ตรงกับรถยนต์ของเราผ่านการดูจากรหัสที่ปรากฎอยู่ที่ตัวขวดของน้ำมันเครื่องชนิดนั้นๆ ซึ่งรหัสดังกล่าวที่ใช้สำหรับการพิจารณาเลือกซื้อได้แก่ รหัส SAE
โดยรหัส SAE คือ ค่ามาตรฐานจากสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ ของสหรัฐอเมริกา เพื่อรับรองว่าน้ำมันเครื่องนี้มีมาตรฐาน
ตัวอย่างเช่น SAE 5W-30
→ 5W คือ ค่าความข้นของน้ำมันเครื่อง ซึ่งใช้บ่งบอกประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องเมื่อใช้ในอากาศเย็น โดยตัวเลขยิ่งต่ำยิ่งใช้ในอากาศหนาวได้ดี และในทางตรงกันข้าม ตัวเลขยิ่งสูงยิ่งเหมาะกับการใช้ในอากาศร้อนได้ดี นั่นเอง
→ 30 คือ ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง ซึ่งตัวเลขยิ่งมากแปลว่ายิ่งหนืด และยิ่งกันสนิมได้ดี
SAE 5W-30 |
สำหรับในส่วนของการใช้งานผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง โดยทั่วไปแล้วเราจะทำการถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเป็นการรักษาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
→ ขั้นตอนในการบำรุงรักษา และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ก่อนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกครั้ง โปรดดูคู่มือประจำรถของคุณเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องของน้ำมันเครื่องที่จะใช้ และระยะเวลาที่แนะนำให้ทำการเปลี่ยน
1. สังเกตที่ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง (โดยปกติจะเป็นสีเหลืองหรือส้มและอยู่ใกล้เครื่องยนต์)
2. ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออก เช็ดให้สะอาด จากนั้นใส่กลับเข้าไปในท่อ
3. รอสักครู่ จากนั้นทำการดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกเพื่อดูระดับน้ำมันของคุณ ระดับต่ำสุดและสูงสุดจะถูกระบุไว้ที่ปลายก้าน หากระดับต่ำกว่าหรือสูงกว่าเครื่องหมายที่ระบุไว้ ให้เติมน้ำมันทันที
4. นอกจากการตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องด้วยตนเองแล้ว รถยนต์ส่วนใหญ่ยังมีตัวบ่งชี้เพื่อเตือนผู้ขับขี่เมื่อระดับน้ำมันเครื่องต่ำ โดยจะแสดงในลักษณะของไฟเตือน ซึ่งถ้าไฟนี้เป็นสีเหลืองหรือแดง คุณต้องหยุดรถเพื่อตรวจสอบ และเติมน้ำมันเครื่องโดยเร็วที่สุด และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเราแนะนำให้ใช้ร่วมกับตัวกรองน้ำมันของเด็นโซ่ที่ได้รับการรับประกันคุณภาพจากทางบริษัทเด็นโซ่เช่นเดียวกัน
โดยน้ำมันเครื่องของทาง DENSO ได้มีการจำหน่ายผ่านช่องทาง Aftermarket หรือตลาดหลังการขายที่ลูกค้าทุกท่านสามารถทำการสั่งซื้อผ่านทางตัวแทนจำหน่ายของ DENSO ได้ทั้งช่องทางออนไลน์ (DENSO Aftermarket Thailand) หรือผ่านทางเครือข่ายศูนย์บริการของ DENSO ที่มีอยู่มากกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ โดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมหลักสูตรมาตรฐานจากทาง DENSO พร้อมทั้งให้บริการงานซ่อมด้วยอะไหล่แท้จากทางผู้ผลิตโดยตรง
ติดต่อเราได้แล้ววันนี้!
"DENSO Aftermarket Thailand" | |
“เครือข่ายศูนย์บริการของ DENSO ” |